ปี 2023
2 ชม.
11 นาที
IMDB: 6.9
เสียง : ไทย
เรื่องย่อ
Maestro (2023) มาเอสโตร บอกเล่าเรื่องราวอันแสนซับซ้อนของตำนานเพลงคลาสสิก เลนนาร์ด เบิร์นสไตน์ กับภรรยาของเขา เฟลิเซีย มอนเทเลกรา โคห์น ดาวแห่งบอร์ดเวย์ ที่บรรเลงเพลงรักมายาวนานกว่า 30 ปี นับตั้งแต่พานพบกันครั้งแรกในปี 1946 ความหลงใหลและแรงดึงดูดมหาศาลระหว่างพวกเขานำไปสู่การหมั้นหมาย 2 ครั้งซ้อน และครองชีวิตแต่งงานที่ยาวนานนับทศวรรษ พร้อมกับมีทายาทด้วยกัน 3 คน
ในผลงานเรื่องนี้ แบรดลีย์ คูเปอร์ รับหน้าที่แทบจะทุกส่วนเลยก็ว่า ทั้งเป็นผู้กำกับเอง ร่วมเขียนบทหนังกับ "จอช ซิงเกอร์" (จาก First Man) ซ้ำยังแสดงนำในหนังของตัวเอง และร่วมอำนวยการสร้างหนังด้วย นี่คือร้อยเรียงเรื่องราวผ่านฉากหน้าที่เป็นทั้งภาพสีและภาพขาวดำ กับสัดส่วนภาพ 1.33:1 สุดคลาสสิก แต่น่าเสียดายที่มนต์เสน่ห์ในหนังยังไม่อาจจะตอบสนองปฏิกิริยากับผู้ชมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แม้ว่าจะเป็นหนังเชิงชีวประวัติตำนานเพลงที่มีลมหายใจ อย่าง ลีโอนาร์ด เบิร์นสไตน์ แต่กลับมาพบว่าสตอรีในหนังเรื่องนี้ยังค่อนข้างเต็มไปด้วยช่องโหว่และทิศทางที่ประหลาด ๆ ไปสักหน่อย คล้ายว่าหนังอยากจะเน้นไปถึงเส้นทางชีวิตแห่งความสำเร็จและความรักของเบิร์นสไตน์ แต่เส้นเรื่องจุดนี้ก็ยังไม่เข้มข้นเพียงพอสักเท่าไหร่
หรือถ้าหนังอยากจะเน้นไปที่ลำดับความสำคัญในชีวิตครอบครัวและความสัมพันธ์อย่างลึกซึ่งระหว่างเบิร์นสไตน์กับภรรยา ตรงจุดนี้หนังก็ยังแตะประเด็นเข้าไปอย่างมีชั้นเชิง ที่เหมือนจะจริงจังและกลับยังไม่ถึงขั้นทรงพลังเท่าที่ควร กลายเป็นบทที่ดูพยายามทำให้ไม่เคร่งเครียดหรือเคร่งขรึม แต่มันทำให้หนังเต็มไปด้วยสภาวะไร้น้ำหนักที่แทรกเข้ามาเรื่อย ๆ
ในผลงานเรื่องนี้ แบรดลีย์ คูเปอร์ รับหน้าที่แทบจะทุกส่วนเลยก็ว่า ทั้งเป็นผู้กำกับเอง ร่วมเขียนบทหนังกับ "จอช ซิงเกอร์" (จาก First Man) ซ้ำยังแสดงนำในหนังของตัวเอง และร่วมอำนวยการสร้างหนังด้วย นี่คือร้อยเรียงเรื่องราวผ่านฉากหน้าที่เป็นทั้งภาพสีและภาพขาวดำ กับสัดส่วนภาพ 1.33:1 สุดคลาสสิก แต่น่าเสียดายที่มนต์เสน่ห์ในหนังยังไม่อาจจะตอบสนองปฏิกิริยากับผู้ชมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แม้ว่าจะเป็นหนังเชิงชีวประวัติตำนานเพลงที่มีลมหายใจ อย่าง ลีโอนาร์ด เบิร์นสไตน์ แต่กลับมาพบว่าสตอรีในหนังเรื่องนี้ยังค่อนข้างเต็มไปด้วยช่องโหว่และทิศทางที่ประหลาด ๆ ไปสักหน่อย คล้ายว่าหนังอยากจะเน้นไปถึงเส้นทางชีวิตแห่งความสำเร็จและความรักของเบิร์นสไตน์ แต่เส้นเรื่องจุดนี้ก็ยังไม่เข้มข้นเพียงพอสักเท่าไหร่
หรือถ้าหนังอยากจะเน้นไปที่ลำดับความสำคัญในชีวิตครอบครัวและความสัมพันธ์อย่างลึกซึ่งระหว่างเบิร์นสไตน์กับภรรยา ตรงจุดนี้หนังก็ยังแตะประเด็นเข้าไปอย่างมีชั้นเชิง ที่เหมือนจะจริงจังและกลับยังไม่ถึงขั้นทรงพลังเท่าที่ควร กลายเป็นบทที่ดูพยายามทำให้ไม่เคร่งเครียดหรือเคร่งขรึม แต่มันทำให้หนังเต็มไปด้วยสภาวะไร้น้ำหนักที่แทรกเข้ามาเรื่อย ๆ