<p>ไมเคิล สกอฟิลด์ วิศวกรโครงสร้างจงใจทำให้ตนเองติดคุก...

<p>ไมเคิลพยายามหาของสองอย่างซึ่งก็คือยาเพื่อแกล้งเป็นโรคเบาหวานและนอตขนาดใหญ่ที่ใช้ในแผนแหกคุก</p>

<p>ไมเคิลเจอปัญหาในการเกลี้ยกล่อมให้อะบรูซซีและซูเครร่วมมือกับเขา...

<p>ไมเคิลได้น้ำยากัดกร่อนมาใช้ในแผนแหกคุก และเฮย์ไวร์เพื่อนร่วมห้องขังคนใหม่เริ่มหลงใหลในรอยสักของเขา</p>

<p>ระหว่างที่เคลเลอร์แมนกับเฮลพยายามย้ายไมเคิลไปเรือนจำอื่น...

<p>แผนถ่วงเวลาด้วยการปิดเรือนจำของไมเคิลทำให้เกิดการจลาจลขนาดใหญ่...

<p>ไมเคิลช่วยซาราระหว่างเกิดการจลาจลในเรือนจำ...

<p>ระหว่างที่ไมเคิลพยายามหาวิธีขุดอุโมงค์เข้าไปในตึกที่มีห้องพักผู้คุม...

<p>ที-แบ็กเสียทาสไปหนึ่งคน แต่ก็เล็งอีกคนไว้ ขณะเดียวกันแผนแหกคุกเริ่มตกอยู่ในอันตรายเมื่ออะบรูซซีเสียอำนาจในเรือนจำ</p>

<p>อะบรูซซีหวังจะเรียกคืนอำนาจคุมทีมและเพิ่มโอกาสหลบหนี...

<p>ไมเคิลสร้างอุปกรณ์ที่จะช่วยบอกได้ว่าการแหกคุกครั้งนี้ต้องใช้เวลาเท่าไร...

<p>ลินคอล์นเตือนไมเคิลว่าใครสักคนในกลุ่มต้องถอนตัวและอยู่ที่เรือนจำ...

<p>ไมเคิลเริ่มดำเนินการตามแผนเมื่อใกล้ถึงวันประหารลินคอล์น...

<p>ขณะที่ไมเคิลพยายามชะลอการประหารของลินคอล์นโดยเปลี่ยนสายไฟของเก้าอี้ไฟฟ้า...

<p>การประหารชีวิตของลินคอล์นได้รับการผัดผ่อนเมื่อผู้พิพากษาสั่งให้ขุดศพของสเตดแมนขึ้นมา...

<p>เหตุการณ์ในอดีตบอกเล่าว่าไมเคิล, ลินคอล์น, ซูเคร,...

<p>ไมเคิลถูกขังเดี่ยว ขณะที่ซูเครโดนทิ้งให้กลบรูในห้องพักผู้คุม</p>

<p>ขณะที่ไมเคิลพยายามทำให้เฮย์ไวร์ปะติดปะต่อรอยสักส่วนที่หายไป...

<p>ไมเคิลพยายามหาทางเอากุญแจห้องพยาบาลมาจากซารา...

<p>หลังจากไมเคิลบังคับให้โป๊ปย้ายลินคอล์นไปห้องพยาบาล...

<p>แผนแหกคุกถูกเปิดโปง เบลลิกขึ้นเป็นผู้นำในการล่าตัวนักโทษ...