ปี 1998
1 ชม.
50 นาที
IMDB: 6.1
เสียง : ไทย
เรื่องย่อ
ดูหนัง Young & Dangerous 5 (1998) กู๋หว่าไจ๋ 5 ฟัดใหญ่เมืองตะลึง เรื่องย่อ "เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญกับหนังภาค 5 “กู๋หว่าไจ๋ ฟัดใหญ่เมืองตะลึง” เมื่อไม่มีบทบาทของ ไก่ป่า ในภาคนี้ แต่ในด้านเรื่องราวก็ยังคงวนเวียนอยู่กับศัตรูตัวใหม่ ๆ สถานการณ์ใหม่ ๆ ที่ความสนุกเริ่มลดลง และภาพรวมของหนังดูจะเข้าข่าย “ตัน” เสียแล้ว ดูหนังออนไลน์ HD พากย์ไทย เต็มเรื่อง มาสเตอร์ ดูหนังHD ดูหนังใหม่ ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์ หนังมาใหม่ Master ดูฟรีไม่มีโฆษณา ภาพ Full-HD Ezmovie.co
ในภาคนี้เรื่องราวได้ยกระดับจากสงครามอันธพาล การต่อยตีของเด็กหนุ่มวัยรุ่น มาเป็นความขัดแย้งของรุ่นใหญ่ การต่อสู้แย่งชิงอำนาจที่ดูราวกับเป็นการต่อสู้ทางการเมือง ห้าวหนาน ต้องเจอมือดีจากตงซิ่งคนใหม่ “ซือถูห้าวหนาน” คนชื่อเดียวกับเขา ที่ขอท้าทายอำนาจเหนือย่านถงหลอวาน ด้วยการจัดแข่งขันมวยเดิมพันขึ้นมา
กู๋หว่าไจ๋ มักจะถูกปรามาสว่าไม่ได้ให้อะไรกับคนดู มากกว่าการฉายภาพฉาบฉวยของตัวละครนักเลงวัยรุ่นหนุ่มหล่อแต่งตัวดีมีรสนิยม, ทำผมเท่ห์ มีสาวสวย ๆ อยู่รายล้อม แต่ตลอดทั้ง 5 ภาคหนังก็แสดงถึงความเปลี่ยนแปลงของตัวละครเพื่อฉายให้เห็นถึงสัจธรรมบางข้อได้อยู่เหมือนกัน
จากกุ้ยข้างถนนที่เอาชนะด้วย หมัด, มีด หรือปืน ไปสู่โลกแห่งความเป็นผู้ใหญ่ที่ความขัดแย้งมีอะไรซับซ้อนมากกว่านั้น โดยเฉพาะในยุคที่เงินทองเริ่มหายาก เหล่านักเลงต้องดิ้นรน ไปสู่หนทางใหม่ พยายามลงทุนในธุรกิจ แต่สุดท้ายการต่อสู้ในสนามที่ไม่ช่ำชอง ก็ยิ่งมีแต่จะเสียเปรียบ งานนี้ ห้าวหนาน และพวกแทบจะเอาตัวไม่รอดเพราะโดนต้มซะสุก เช่นเดียวกับเพื่อนจาก หงซิ่งหลาย ๆ คนที่ต้องแย่เพราะเศรษฐกิจตกต่ำ เงินขาดมือ สถานการณ์เลวร้ายกว่าตอนโดนคู่อริวิ่งถือมีดพร้าเข้าใส่เสียอีก
แม้จะไม่ได้นำเสนออะไรที่ลึกซึ้งมากมาย แต่หนังก็สะท้อนความเป็นจริงบางอย่างออกมาได้ โดยเฉพาะบรรยากาศของฮ่องกงหลังกลับคืนสู่การปกครองของจีน ความไม่มั่นใจกับระบบการปกครองใหม่ แต่ถ้าจะนับความสนุก, ความลื่นไหลดูมันส์แล้ว ก็ถือว่าเป็นรองภาคอื่น ๆ
อันที่จริงแล้ว หนังภาค 4 และ 5 ก็ไม่ได้ย่ำแย่อะไร แต่มักจะถูกกล่าวถึงในฐานะตอนต่อที่เริ่มไม่ค่อยน่าจดจำแล้ว ส่วนหนึ่งก็อาจเพราะเนื้อหาของหนัง แม้จะมีอะไรใหม่ ๆ ให้เห็นกันอยู่บ้าง แต่ภาพรวมบรรยากาศการเล่าเรื่อง ก็ไม่ได้ใหม่พอที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงอะไรได้มากนัก สุดท้ายรายได้ก็เริ่มลงลด และปีต่อ ๆ ไปก็ไม่ได้มี “กู๋หว่าไจ๋” มาให้ดูกันปีต่อปีอีกต่อไป"
ในภาคนี้เรื่องราวได้ยกระดับจากสงครามอันธพาล การต่อยตีของเด็กหนุ่มวัยรุ่น มาเป็นความขัดแย้งของรุ่นใหญ่ การต่อสู้แย่งชิงอำนาจที่ดูราวกับเป็นการต่อสู้ทางการเมือง ห้าวหนาน ต้องเจอมือดีจากตงซิ่งคนใหม่ “ซือถูห้าวหนาน” คนชื่อเดียวกับเขา ที่ขอท้าทายอำนาจเหนือย่านถงหลอวาน ด้วยการจัดแข่งขันมวยเดิมพันขึ้นมา
กู๋หว่าไจ๋ มักจะถูกปรามาสว่าไม่ได้ให้อะไรกับคนดู มากกว่าการฉายภาพฉาบฉวยของตัวละครนักเลงวัยรุ่นหนุ่มหล่อแต่งตัวดีมีรสนิยม, ทำผมเท่ห์ มีสาวสวย ๆ อยู่รายล้อม แต่ตลอดทั้ง 5 ภาคหนังก็แสดงถึงความเปลี่ยนแปลงของตัวละครเพื่อฉายให้เห็นถึงสัจธรรมบางข้อได้อยู่เหมือนกัน
จากกุ้ยข้างถนนที่เอาชนะด้วย หมัด, มีด หรือปืน ไปสู่โลกแห่งความเป็นผู้ใหญ่ที่ความขัดแย้งมีอะไรซับซ้อนมากกว่านั้น โดยเฉพาะในยุคที่เงินทองเริ่มหายาก เหล่านักเลงต้องดิ้นรน ไปสู่หนทางใหม่ พยายามลงทุนในธุรกิจ แต่สุดท้ายการต่อสู้ในสนามที่ไม่ช่ำชอง ก็ยิ่งมีแต่จะเสียเปรียบ งานนี้ ห้าวหนาน และพวกแทบจะเอาตัวไม่รอดเพราะโดนต้มซะสุก เช่นเดียวกับเพื่อนจาก หงซิ่งหลาย ๆ คนที่ต้องแย่เพราะเศรษฐกิจตกต่ำ เงินขาดมือ สถานการณ์เลวร้ายกว่าตอนโดนคู่อริวิ่งถือมีดพร้าเข้าใส่เสียอีก
แม้จะไม่ได้นำเสนออะไรที่ลึกซึ้งมากมาย แต่หนังก็สะท้อนความเป็นจริงบางอย่างออกมาได้ โดยเฉพาะบรรยากาศของฮ่องกงหลังกลับคืนสู่การปกครองของจีน ความไม่มั่นใจกับระบบการปกครองใหม่ แต่ถ้าจะนับความสนุก, ความลื่นไหลดูมันส์แล้ว ก็ถือว่าเป็นรองภาคอื่น ๆ
อันที่จริงแล้ว หนังภาค 4 และ 5 ก็ไม่ได้ย่ำแย่อะไร แต่มักจะถูกกล่าวถึงในฐานะตอนต่อที่เริ่มไม่ค่อยน่าจดจำแล้ว ส่วนหนึ่งก็อาจเพราะเนื้อหาของหนัง แม้จะมีอะไรใหม่ ๆ ให้เห็นกันอยู่บ้าง แต่ภาพรวมบรรยากาศการเล่าเรื่อง ก็ไม่ได้ใหม่พอที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงอะไรได้มากนัก สุดท้ายรายได้ก็เริ่มลงลด และปีต่อ ๆ ไปก็ไม่ได้มี “กู๋หว่าไจ๋” มาให้ดูกันปีต่อปีอีกต่อไป"